celestethailand.com
Celeste Thailand

เช็คสภาพผิว พร้อมกับทำความรู้จักสภาพผิวหน้าของแต่ละประเภท

การดูแลผิวพรรณเป็นเรื่องสำคัญ เพราะผิวพรรณดีความมั่นใจเราก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าสภาพผิวของตัวเอง นั้นมีความแตกต่างกันอยู่ ทั้งปัญหาผิวลอกแห้งเป็นขุย หรือ หน้ามัน เรามีวิธีการตรวจสอบว่าผิวของเราเป็นสภาพแบบไหน เพื่อให้คุณได้ดูแลผิวอย่างถูกต้อง

ผิวมีกี่ประเภท

ส่วนมากแล้วสภาพผิวของเราไม่ว่าจะเป็นผิวแบบไหนจะขึ้นอยู่กับพ่อหรือแม่ เกิดจากการถ่ายทอดลักษณะทางกายภาพ ที่ถ่ายทอดทาง DNA ทำให้เราได้รับสภาพผิวจากพ่อหรือแม่ หรือความแตกต่างของสภาพผิวยังขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกได้อีก ซึ่งสามารถแบ่งได้ดังนี้

– ผิวธรรมดา (Normal skin) ถือเป็นผิวที่สมดุลมากที่สุด ผิวไม่มันและไม่แห้งมากเกินไป ผิวหน้าเนียนละเอียดแทบมองไม่เห็นรูขุมขน ผิวมีความกระจ่างใส 

– ผิวแห้ง (Dry skin) เป็นผิวที่ผลิตน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวได้น้อย รูขุมขนจะเล็ก หน้าเป็นขุยลอก ผิวมีความหมองคล้ำและหยาบกร้าน

– ผิวมัน (Oily skin) เป็นผิวที่ผลิตน้ำมันออกมาเยอะเกินไป จะมีรูขุมขนที่กว้าง ผิวหมองคล้ำและมีความเงาบนใบหน้าเนื่องจากความมัน และอาจจะมีสิวหัวดำหรือสิวชนิดอื่นๆ รวมอยู่ด้วย 

– ผิวผสม (Combination skin) เป็นผิวที่มีลักษณะผิวแห้งและผิวมันได้ในเวลาเดียวกัน

ผิวธรรมดา

ผิวธรรมดา หมายถึง ผิวที่มีความสมดุล หากพูดถึงความสมดุลแล้วหลายคนอาจจะยังนึกไม่ออก หมายถึง ช่วงบริเวณ T-zone ระหว่างหน้าผาคางและจมูก อาจจะมีความมันอยู่เพียงเล็กน้อยเป็นบางครั้งแต่โดยรวมแล้ว ระดับความมันและความชื้นทั่วใบหน้า จะสมดุลกัน ซึ่งในทางวิทยาศาสตร์ เรียกผิวที่สมบูรณ์แบบนี้ว่า “eudermic” คือผิวธรรมดาที่มีน้ำมันเคลือบผิวในปริมาณที่พอดีลักษณะของผิวธรรมดา 

ผิวธรรมดา

ลักษณะของผิวธรรมดา

– ผิวไม่มันและไม่แห้งจนเกินไป

– ผิวเนียนละเอียดนุ่ม ดูอวบอิ่ม ชุ่มชื่นพอดี

– รูขุมขนเล็กจนแทบมองไม่เห็น

– ใบหน้าไม่มีปัญหาผิว ฟ้า สิว กระ รบกวนมากเท่าไหร่

– มีการไหลเวียนโลหิตที่ดี 

แต่เมื่อถึงช่วงอายุหนึ่งผิวธรรมดาอาจเปลี่ยนสภาพเป็นผิวแห้งได้ เนื่องจากปัจจัยอื่นๆ เช่น อายุที่มากขึ้น แสงแดด อุณหภูมิที่หนาวหรือร้อนก็อาจทำให้ผิวแห้งลอกหรือมันได้ เช่นกัน

ผิวแห้ง 

ผิวแห้ง เกิดจากผิวที่ผลิตน้ำมันออกมาน้อยเกิน ขาดกรดไขมันที่จำเป็นในการรักษาความชุ่มชื้น และเกิดจากชั้นปกป้องผิวที่อ่อนแอมากกว่าปกติ อาจจะเป็นโดยกำเนิด แต่ส่วนมากแล้วปัญหาผิวแห้งมักจะเกิดจาก ปัจจัยอื่นๆ เช่น อายุ สุขภาพ สภาพแวดล้อม อากาศ เป็นต้น โดยผู้สูงอายุจะมีโอกาศมีผิวแห้งได้มากเนื่องจาก การผลิตไขมันที่ผิวหนังไม่เพียงพอและผิวหนังชั้นกำพร้าเกิดการเปลี่ยนแปลง ทำให้ผิวหนังไม่สามารถ กักเก็บน้ำและไขมันไว้ได้ สามารถจำแนกออกได้ 2 กรณี คือ 

Dry skin ผิวแห้ง

ผิวแห้งขาดความชุ่มชื้น (Dry Skin) จะเป็นอาการผิวแห้งเพียงเล็กน้อย มีลักษณะผิวแห้งกร้าน มองเห็นร่องลายของผิวได้ง่าย ส่วนมากพบที่บริเวณ แขน ขา มือ 

ผิวแห้งแตก ลอกเป็นขุย (Extremely dry skin) ผิวมีลักษณะแห้งมาก แดง ผิวลอกเป็นขุย สามารถสังเกตรอยแตกลายได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีอาการแสบคันร่วมอยู่ด้วย 

สาเหตุของผิวแห้ง

ผิวแห้งสังเกตได้ง่ายหลังอาบน้ำ ผิวของคุณจะมีความตึงและแห้ง อาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัว เช่น มีความคันที่บริเวณผิวหนัง ผิวหนังมีความหยาบกร้าน และ ผิวหนังมีอาการลอกเป็นขุย สามารถมองเห็นริ้วรอยหรือรอยแตกได้ง่าย ผิวมีสีเทาขี้เถ้า มาจากสาเหตุอื่นๆ ดังนี้ 

– เกิดความผิดปกติของผิวเนื่องจากมีการระเหยของน้ำออกจากผิวมากเกินไป  การสูญเสียน้ำจากต่อมเหงื่อเพราะความร้อน 

– การโดนแดดมากเกินไปเพราะรังสี UV ของแดดเป็นตัวทำลายคอลลาเจนซึ่งมีหน้าที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวนั้นเสื่อมสภาพลง 

– การอยู่ในสภาพอากาศที่เย็นหรือมีความชื้นต่ำ ทำให้ผิวแห้งมากกว่าปกติเนื่องจาก อากาศจะปรับสมดุลความชื้นทางอากาศโดยจะดูดความชื้นจากชั้นผิวหนังไปทดแทนความชื้นในอากาศ 

ผิวมัน

ผิวมัน เป็นลักษณะของผิวที่ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมาในปริมาณที่มากจนเกินไป จะพบได้มากช่วงบริเวณ T-zone เมื่อหน้าเรามีการผลิตน้ำมันออกมาเยอะ จึงนำมาซึ่งสาเหตุของปัญหาผิวต่างๆตามมาอีกมากมาย คือ ปัญหาความหมองคล้ำบนใบหน้า รูขุมขนกว้าง และทำให้เกิดสิว เช่น สิวอุดตัน สิวหัวดำในกรณีที่ไม่รุนแรง และอาจมีสิวไม่มีหัว จนไปถึง สิวอักเสบ ขึ้นได้ในกรณีที่รุนแรง

 

oily skin ผิวมัน

สาเหตุของผิวมัน 

– การถ่ายทอดทางพันธุกรรม

– ระดับฮอร์โมนในร่างกายเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่น

– อารมณ์ ความเครียด เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมาเยอะ

– การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวที่ก่อให้เกิดการอุดตันและระคายเคือง

ลักษณะของผิวมัน จะมีรูขุมขนค่อนข้างใหญ่มองเห็นได้ชัด พื้นผิวมีความมันเยิ้มง่าย ใบหน้าจะมีลักษณะมันวาว ผิวดูหนามองเห็นเส้นเลือดได้ไม่ชัดเจน 

ผิวผสม

ผิวผสม หมายถึง ผิวที่มีสภาพผิวแต่ละจุดบนใบหน้าประกอบไปด้วย ความมันและผิวแห้งรวมกันอยู่ โดยอาจจะมี ผิวมันผสมผิวธรรมดาหรือผิวแห้งกับผิวผสม อาจมีความแตกต่างกันบริเวณ T-zone และ แก้ม ผิวชนิดนี้อาจพบ สิวหัวดำบริเวณจมูก และมีสิวขึ้นบริเวณหน้าผากและคาง 

Combination skin ผิวผสม

สาเหตุของผิวผสม 

เกิดจากบริเวณ รูขุมขนที่จมูก คาง และ หน้าผากมีการผลิตน้ำมันออกมาเยอะเกินไปทำให้เกิด ความมันเยิ้ม แต่บริเวณที่มีผิวแห้งเกิดจากการขาดน้ำมัน ช่วงบริเวณโหนกแก้มและข้างแก้ม

ผิวผสมดูอย่างไร 

– ผิวมันบริเวณ T-zone

– ผิวแห้งบริเวณโหนกแก้มและข้างแก้ม 

– มีสิวอุดตันมีจมูกและมีสิวที่หน้าผาก

– รูขุมขนช่วงบริเวณ T-zone จะกว้างเป็นพิเศษ 

รู้จักผิวให้มากขึ้น 

อย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้น คงพอจะทราบกันแล้วว่า ผิวของคนเรานั้นมีอยู่หลายประเภท ซึ่งแต่ละคนก็มีสภาพผิวที่แตกต่างกัน โดยนอกจากพันธุกรรมที่เป็นตัวกำหนดสภาพผิวแล้วก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ เช่น ความเครียด อุณหภูมิ สภาพอากาศ มลภาวะที่ต้องพบเจอทุกวัน ก็เป็นสาเหตุของปัญหาผิวทั้งนั้น เพราะฉะนั้นแล้วการเลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับสภาพผิวจึงมีความจำเป็นอย่างมาก

ริ้วรอย เมื่ออายุมากขึ้นปัญหาริ้วรอยแห่งวัยก็เป็นเรื่องที่หนีไม่พ้น เพราะสภาพผิวเปลี่ยนแปลงได้ สำหรับบางคนที่มีผิวหน้ามันในช่วงวัยรุ่นพออายุมากขึ้นสภาพผิวสามารถเปลี่ยนเป็นผิวแห้ง ผู้ที่มีผิวปกติก็อาจมีผิวแห้งตามอายุที่มากขึ้น ปัญหาริ้วรอยสามารถพบได้หลังจาก อายุ 25 ปี เนื่องจากผิวสูญเสียความยืดหยุ่น ทำให้เกิดเป็น เส้นและรอยย่นที่ก่อตัวขึ้นในผิว สามารถเห็นได้ชัดบริเวณ ดวงตา ปากและลำคอ

สีผิว สีผิวของเราที่ได้รับมาจากพ่อหรือแม่โดยพันธุกรรมจะเป็นตัวกำหนดการสร้างคุณภาพของเม็ดสี อาจมีสีขาวหรือผิวคล้ำก็ได้ หรือนอกจากนี้ผิวของเราสามารถ หมองคล้ำจากการถูกทำลาย โดยแสงแดดได้เช่นกัน สีแดงของผิวเป็นตัวบอกถึงประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด

Scroll to Top