celestethailand.com
Celeste Thailand

หลุมรอยดำ จากอีสุกอีใส วิธีการรักษา

โรคอีสุกอีใส โรคที่ทุกคนคุ้นเคยกันอย่างดี เพราะหลายคนอาจเป็นตั้งแต่เด็ก การป่วยเป็นโรคอีสุกอีใสนั้น ถ้าป่วยตอนเด็กจะดีกว่าเพราะอาการรุนแรงของโรคจะมีน้อย ถ้าป่วยตอนเป็นผู้ใหญ่อาการจะรุนแรงกว่า แต่สิ่งที่น่ากังวลตามมาคือแผลเป็นหลุม หรือรอยดำ ที่บอกเลยว่าอาจจะเป็นรอยที่รักษาได้ยากที่สุด เรามีวิธีรักษาและการป้องกันการเกิดแผลเป็น มาฝากกันในบทความนี้ 

อีสุกอีใส เกิดจากอะไร

สาเหตุของโรคเกิดจาก ไวรัสวาริเซลลาเกิดจากเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า ไวรัสวาริเซลลา (varicella virus) หรือ human herpes virus type 3 เป็นเชื้อไวรัสชนิดเดียวกับที่ทำให้เกิดงูสวัด ในวัยเด็ก หากเป็นโรคอีสุกอีใส จะมีไข้ต่ำๆ อ่อนเพลียและเบื่ออาหารประมาณ 3-4 วัน ควรทานยาลดไข้ รักษาตามอาการ ในส่วนของผู้ใหญ่มักจะมีไข้สูงและปวดเมื่อยตามตัวคล้ายไข้หวัดใหญ่ ผู้ป่วยจะมีผื่นขึ้น ซึ่งจะขึ้นพร้อม ๆ กันกับวันที่เริ่มมีไข้ หรือ 1 วันหลังจากมีไข้ เริ่มแรกจะขึ้นเป็นผื่นแดงราบก่อน ต่อมาจะกลายเป็นตุ่มนูน มีน้ำใส ๆ อยู่ข้างในและมีอาการคัน ต่อมาจะกลายเป็นหนอง หลังจากตุ่มน้ำใสขึ้นทั้งตัวแล้ว จะค่อยๆ ยุบและแห้งลง และกลายเป็นสะเก็ดที่รอหลุด ระยะที่ตุ่มน้ำแห้งจะใช้เวลาประมาณ 3 วัน จะค่อยๆ แห้งขึ้นเรื่อยๆ จนสะเก็ดหลุดออกเองและทำให้ผิวเป็นปกติ ซึ่งรวมระยะเวลาในการเป็นโรคอีสุกอีใสประมาณ 2 สัปดาห์

วิธีป้องกันรอยแผลเป็นจากอีสุกอีใส

  1. ดื่มน้ำเยอะๆ เพราะการดื่มน้ำจะช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น ช่วยลดอาการคันตามผิวหนังและช่วยให้แผลเป็นหายเร็วขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ยังช่วยขับเชื้อโรคและทำให้เซลล์ใหม่ในร่างกายเร่งการทำงานมากขึ้น

  1. พยายามอย่าเกาแผล หรือถ้าอดใจไม่ไหวจริงๆ ให้เกาได้แต่ต้องเบามือที่สุดหรือควรตัดเล็บให้สั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เล็บจิกเข้าไปบริเวณแผล จะทำให้แผลอักเสบมากขึ้น

  1. ทาเจลว่านหางจรเข้ ว่านหางจรเข้มีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูให้ผิวเต่งตึง นำมาทาบริเวณตุ่มจะช่วยให้ตุ่มแผลไม่เกิดการติดเชื้อ นอกจากนี้ยังช่วยสร้างเซลล์ผิวใหม่ทำให้มีรอยแผลเป็นจากอีสุกอีใสน้อยลง

 

  1. ทาน้ำมันหอมระเหย หรือ น้ำมันต้นชา เพื่อช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ ช่วยให้ตุ่มอีสุกอีใสเล็กลง ป้องกันการอักเสบ และช่วยให้ตุ่มอีสุกอีใสหายไวขึ้น

วิธีการรักษาแผลเป็น

  1. การใช้ผลิตภัณฑ์ช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว เช่น น้ำมันมะพร้าว โกโก้บัตเตอร์ เนื่องจากจะช่วยให้รอยแดงของแผลดูจางลง ช่วยให้รอยแผลนุ่มขึ้น 
  2. การสครับผิว สครับช่วยขัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดออกไป ทำให้ผิวเรียบเนียน กระจ่างใส และช่วยเปิดรูขุมขนให้ครีมบำรุงต่างๆ ซึมซับเข้าสู่ผิวได้เร็วและดีมากขึ้น จึงช่วยลดรอยดำ รอยแดงได้
  3. การใช้ครีมลดรอยแผลเป็น ซิลิโคนเจลในการลบรอยแผลเป็น สามารถช่วยทำให้แผลชุ่มชื้น และยังทำให้แผลหายเร็วขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ยังช่วยในการลดรอยด่างดำที่เกิดขึ้นจากแผลเป็นอีสุกอีใสได้อีกด้วย

การรักษาอาการป่วยในเด็กแพทย์จะรักษาตามอาการ และระวังการติดเชื้อที่ผิวหนังเท่านั้น แต่สำหรับในผู้ที่มีอายุมากโอกาสความรุนแรงของโรคก็จะมีมากขึ้น และโอกาสที่จะมีอาการแทรกซ้อนจากโรคต่างๆ เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ โรคปอดอักเสบจากการติดเชื้อก็จะสูงกว่าในเด็ก ดังนั้นถ้ามีอาการเจ็บไข้ไม่สบายแนะนำว่าต้องรีบไปพบแพทย์

สำหรับหลายคนที่เข้าใจผิดว่าทุกคนต้องป่วยเป็นโรคนี้นั้นถือว่าไม่ถูกต้องเพราะจากการศึกษา พบว่า ร้อยละ 90 ของคนทั่วไปอาจจะเป็นโรคอีสุกอีใสสักหนึ่งครั้งในชีวิต ซึ่งก็ถือว่าคนที่จะไม่เป็นเลยมีเปอร์ ที่ต่ำมาก แต่หากสำหรับคนที่ยังไม่เป็นก็ไม่ต้องกังวลเพราะปัจจุบันได้มีการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคอีสุกอีใสโดยเฉพาะอยู่แล้ว

Scroll to Top