แม้ว่าชีวิตนี้จะทาครีมกันแดดป้องกันแสงยูวีมากขนาดไหน แต่ยังไงเราก็ต้องใช้ชีวิตท่ามกลางแสงแดดกันอยู่ดี ไม่ว่าจะเดินออกนอกบ้าน ไปเที่ยวทะเล อาบแดด หรือทำกิจกรรมตามสถานที่ outdoor ต่างๆ การหลีกเลี่ยงแสงแดดจึงไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะแดดบ้านเรา ยิ่งซัมเมอร์มาเยือนเร็วเท่าไหร่ ผิวสวยๆเป็นต้องไหม้กันทุกที
อาการของผิวไหม้แดด
- ระดับปกติ : ปวด แดง และแสบผิว อาจมีผิวลอกบ้าง แต่สามารถหายได้ภายใน 3-5 วัน
- ระดับปลานกลาง มีอาการเบื้องต้น แต่จะปวดแสบปวดร้อนมากกว่า และใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ถึงจะหายดี จากนั้นผิวจะลอก
- ระดับรุนแรง อาการจะหนักกว่าทุกระดับ และมีตุ่มน้ำเกิดขึ้น หากผิวไหม้ระดับนี้ ควรพบแพทย์เพื่อทำการรักษา และใช้เวลานานกว่าจะหายเป็นปกติ
วิธีรักษาผิวไหม้แดด
1.ว่านหางจระเข้ เจลของว่านหางจระเข้นั้น สามารถช่วยรักษาอาการผิวไหม้แดดได้ในระดับเบื้องต้น เพราะว่านหางจระเข้มีกรดซาริซิลิค ช่วยเรื่องสมานแผล ผลัดเซลล์ผิว ยับยั้งแบคทีเรีย แถมเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว จึงช่วยปลอบประโลมผิวให้สภาพดีขึ้นได้
2.แช่น้ำเย็น หากสัมผัสแดดจนรู้สึกแสบผิว การแช่ผิวด้วยน้ำเย็นจะลดการอักเสบของผิวจากแดดได้ แต่ห้ามนำน้ำแข็งมาประคบ ไม่งั้นผิวอาจเกิดการอักเสบได้
3.ทำผิวให้นุ่มชุ่มชื้น ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นทาหลังอาบน้ำ เพื่อไม่ให้ผิวที่ไหม้นั้นแห้ง หรือลอก จนเกิดการระคายเคือง อีกทั้งจะทำให้แผลไหม้แดดหายเร็วขึ้น
4.หลีกเลี่ยงแสงแดด หากผิวไหม้แดดแล้ว ก็ไม่ควรออกไปโดนแดด จนกว่าผิวจะหายดี เพราะผิวจะยังคงบอบบาง และไวต่อแสง จนทำให้บริเวณที่ผิวไหม้ ระคายเคืองมากกว่าเดิม
5.ดื่มน้ำเปล่า ควรดื่มน้ำเปล่ามากๆ ให้เพียงพอต่อความต้องกาาจองร่างกาย เพื่อช่วยเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
วิธีป้องกันผิวก่อนและหลังออกแดด
- ทาครีมกันแดดอย่างเสมอ ไม่ว่าจะก่อนหรือหลังออกแดด และพกครีมกันแดดติดตัวไปด้วย เพื่อใช้ทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง
- แต่งกายให้มิดชิด ด้วยเสื้อแขนยาว ขายาว และกางร่มเวลาออกแดด
- หลังกลับจากข้างนอก อย่าลืมเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวเป็นประจำ เพื่อผิวสวยและบำรุงผิวไม่ให้คล้ำเสีย
ทั้งนี้การป้องกันดูแล และบำรุงผิวก่อนและหลัง เป็นสิ่งที่สำคัญมาก หากไม่อยากมีผิวที่คล้ำเสีย กระทั่งลามไปจนผิวไหม้แดด หรือถูกแดดเผาซ้ำๆจนก่อเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง ก็ต้องคำนึงถึงการดูแลรักษาตัวเอง และใส่ใจให้มากขึ้น เพื่อสุขภาพผิวที่ดีในอนาคต